วันพฤหัสบดีที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2558

แนวทางให้นักเรียนรักการเรียนรู้

....นางชมขวัญ  ขุนวิเศษ
...ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดอภยาราม....

          ปัจจัยสำคัญที่สุดในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ไม่ใช่การมีอาคารที่สวยงาม การมีงบประมาณที่เพียงพอ หรือสื่อที่หลากหลาย แต่ปัจจัยสำคัญที่สุด คือความสามารถของครูในการจัดการเรียนรู้และการจัดการเรียนรู้จะประสบความสำเร็จได้  ผู้เรียนจะต้องรัก ชอบ และสนใจในการเรียนรู้นั้น ครูจึงจำเป็นต้องหาวิธีให้นักเรียนเกิดความรักที่จะเรียนรู้

          บางครั้งวิธีที่ครูทำเพื่อช่วยเหลือดูแลให้นักเรียนมีความสามารถในการเรียนรู้หรือแก้ปัญหา อาจมีความผิดพลาดแล้วทำร้ายเด็กโดยไม่เจตนา ความมั่นใจ ความรักและความชอบในการเรียนรู้จึงอาจถูกทำลายไป ซึ่งแม้ว่าเรื่องที่สอน วิธีการสอนสำหรับเด็กแต่ละวัยมีความแตกต่างกัน   แต่สิ่งที่จะเป็นพื้นฐานในการสอนและสำคัญต่อการรัก ความชอบที่จะเรียนรู้สำหรับเด็กทุกวัย คือ การสร้างสัมพันธภาพที่ดีระหว่างครูกับนักเรียน
          จะเห็นว่า เมื่อไรสัมพันธภาพระหว่างครูและผู้เรียนไม่ดี เด็กจะปฏิเสธการเรียนรู้ คือไม่ชอบ ไม่อยากเรียน แรงจูงใจต่ำ ทำให้ครูที่ตั้งอกตั้งใจสอนโดยไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย รู้สึกเป็นทุกข์อย่างยิ่ง เริ่มไม่มั่นใจในตนเอง เหนื่อยหน่าย ชิงชังเด็กว่าไม่รักครูได้โดยไม่รู้ตัว จากความหวังว่าจะสนุกมีความสุขกับการสอน ต้องมาพบตัวเองอีกทีว่า ต้องรบราเคี่ยวเข็ญกับเด็กเหมือนทำสงครามสู้รบกันตลอดเวลา
ดังนั้น จึงต้องช่วยครูหาวิธีทำหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพ โดยฝึกทักษะการสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับนักเรียน เพื่อสร้างสะพานเชื่อมถึงกัน ซึ่งทักษะง่ายๆ ไม่ได้ใช้ความรู้ที่ลึกซึ้งเลยก็คือ การสื่อสาร เริ่มจากการพูด เพราะ การพูดสื่อสารอาจทำให้เกิดความเกลียดชังได้พอ ๆกับการส่งเสริมให้เกิดความสุขในการเรียนรู้ได้ดังนั้น ครูต้องระวัง ไม่ใช้ภาษาแสดงการไม่ยอมรับ หรือใช้อำนาจข่มขู่ เพราะอาจจะเป็นการสร้างกำแพงไม่ให้นักเรียนสื่อสารกลับ ทำให้ยากต่อความรัก ความชอบในการเรียนรู้ เช่น การวิจารณ์ติเตียนว่า เธอมันขี้เกียจจริงๆ แย่มาก หรือการตราหน้าว่า ทำตัวเหมือนเด็กอนุบาลทั้งที่อยู่ ป.6 แล้ว หรือการตักเตือนขู่ว่า ลืมได้ทุกวันจะให้ตกซ้ำชั้นแล้วเป็นต้น การสื่อสารแบบนี้ใช้ไม่ได้  ครูจึงต้องระมัดระวังในการสื่อสารและต้องปฏิบัติต่อนักเรียนโดยเคารพในคุณค่าและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
          นอกจากการพูด ครูก็ต้องฝึกฟังด้วย เราอาจคิดว่าเราฟังเป็นฟังทุกวัน แต่ความจริงสิ่งที่ได้ฟังอาจเป็นคนละเรื่องกับที่นักเรียนพยายามสื่อสารก็ได้ ดังนั้น เมื่อให้นักเรียนพูด ครูต้องฝึกตรวจสอบ เรื่องราวที่เข้าใจจากการฟัง ว่าตรงกับสิ่งที่เด็กต้องการสื่อสารหรือไม่ และต้องแสดงอาการรับรู้ขณะนักเรียนสื่อสาร เช่น ค่ะ ยิ้ม หรือพยักหน้า เมื่อเด็กรู้ว่าครูเข้าใจเขา ความรู้สึกดี ๆ มีกำลังใจ มีความมั่นใจ ความรักในการเรียนรู้ก็จะเกิดขึ้น

          สิ่งสำคัญอีกอย่างก็คือ อารมณ์ของครูต้องยิ้มแย้ม แจ่มใส สนุก สอดแทรกกิจกรรม เกม เพลง หรือกิจกรรมที่เด็กสนใจขณะจัดการเรียนรู้ ถ้าหากทำได้เช่นนี้ การสร้างฉันทะ หรือความพอใจรักใคร่จะเรียนรู้และพลังความคิดดีๆ ก็จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ....

ข่าวการศึกษา